#เที่ยวอยุธยา One Day Trip EP.1 สำหรับวันหยุดที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี 7 Greens ขอพานักเที่ยวหัวใจกรีน มาเดินทัวร์รอบ ๆ อุทยานประวัติศาสตร์ แหล่งมรดกโลก Green Attraction จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ที่ไม่ได้มีแค่อาหารอร่อย หรือ คาเฟ่สวย แต่ยังร่ำรวยวัฒนธรรม มีโบราณสถานอีกมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส นอกจากจะได้เที่ยวพักผ่อนเติมพลังแล้วยังสามารถซึมซับวัฒนธรรมร่วมไปกับกลิ่นอายความเป็นไทยอีกด้วย

อยุธยาฯ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายใกล้กรุงเทพฯ ที่เป็นศูนย์กลางของแหล่งวัฒนธรรม เต็มไปด้วยความทรงจำและร่องรอยของประวัติศาสตร์ สำหรับพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยานั้น ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปีพ.ศ. 2534 และมีสถานที่ที่น่าสนใจภายในอุทยานหลายแห่งด้วยกัน

7 Greens เริ่มต้นพาชม 3 โบราณสถาน ได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์, วิหารพระมงคลบพิตร, และ วัดพระราม ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาเยือนสถานที่เหล่านี้ จะทำให้รู้สึกราวกับได้ย้อนอดีตไปในสมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว กับสถาปัตยกรรมสะท้อนความเป็นไทยที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็งดงาม

ประเดิมที่วัดแรก วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง เทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งวัดแห่งนี้มีความสำคัญที่สุดในยุคโบราณ เพราะมีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างให้เป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ และเป็นเพียงวัดเดียวในอยุธยาที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

บริเวณภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง สิ่งก่อสร้าง พระพุทธรูปต่างๆ ที่แม้จะทรุดโทรมตามกาลเวลา แต่ยังคงหลงเหลือความอลังการของสถาปัตยกรรมให้คนรุ่นหลังได้ตามรอยประวัติศาสตร์ศึกษาความเป็นมาเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยารุ่งเรือง

ค่าเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวไทย 10 บาท และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 50 บาท สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. และ ในเวลา 19.30 – 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน

แผนที่: https://goo.gl/maps/6Y7xFnLfot6kfG127

เดินถัดไปอีกนิด จะพบกับ วิหารพระมงคลบพิตร ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นที่ประดิษฐานพระมงคลบพิตร พระพุทธรูปบุสำริดปางมารวิชัย หล่อสำริดโลหะสำคัญในสมัยอยุธยา มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร สูง 12.45 เมตร นับเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปองค์ใหญ่ในประเทศไทย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น นอกจากเข้ามานมัสการพระพุทธรูปแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อของใช้ของฝากทั้งอาหารคาวหวาน ผลไม้ และเครื่องจักสานต่าง ๆ จากบริเวณด้านหน้าวัดติดไม้ติดมือกลับบ้าน

นักท่องเที่ยว สามารถเข้าชมวันธรรมดาตั้งแต่เวลา 08.00–16.30 น. และในวันเสาร์–อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม
แผนที่: https://goo.gl/maps/M1Vozny2FaUJYsAy8

ข้ามไปฝั่งที่ วัดพระราม เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเขตพระราชวัง ตรงข้ามกับวิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งมีพระปรางค์ขนาดใหญ่ องค์ปรางค์ก่อด้วยอิฐสอปูนสมัยอยุธยาตอนต้น ยิ่งไปกว่านั้น พระปรางค์องค์ใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม สูงแหลมขึ้นไปด้านบน นอกจากนี้ยังมีเจดีย์เล็กใหญ่อยู่รอบ ๆ พระปรางค์ประมาณ 28 องค์ และที่น่าสังเกต คือ กำแพงของวัดพระรามด้านเหนือ มีแนวเหลื่อมกันอยู่ กำแพงด้านตะวันออก ตะวันตก และด้านใต้ มีซุ้มประตูค่อนไปทางทิศตะวันตกได้ระดับกับมุมระเบียงด้านตะวันตกเฉียงเหนือของปรางค์

สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. สำหรับค่าเข้าชมนักท่องเที่ยวไทย 10 บาท และ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 บาท

แผนที่: https://goo.gl/maps/WBX11iFMUBypMzjP6

สำหรับไอเดียเที่ยวตามแบบฉบับหัวใจกรีน ทำได้ไม่ยาก ลองใช้บริการรถสาธารณะ Green Logistics ในการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรถสองแถว รถตุ๊กตุ๊ก หรือเช่าจักรยานปั่นชมโดยรอบอุทยานฯ และยังสามารถเดินเที่ยววัดวาอารามวิหาร รวมถึงโบราณสถานอีกมากมายที่ตั้งเรียงต่อกันภายในอุทยานฯ ได้อย่างเต็มอิ่ม

Green Heart ใครที่แวะไปเช็กอินที่ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อย่าลืม #เที่ยวใส่ใจ เที่ยวด้วยใจคิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมใจไม่ทิ้งขยะภายในเขตอุทยาน งดปีนป่าย ปฏิบัติตามกฎของโบราณสถานอย่างเคร่งครัด ดูแลโบราณสถานให้สวยงาม รักษาความสมบูรณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง

สัมผัสบรรยากาศสุด exclusive กับที่พักสุดหรูย่านริมน้ำปิง

รวมที่พัก Eco Friendly ผู้ประกอบสายกรีน ฝากร้านใต้โพสต์นี้

แนะนำ 8 วัดสวย เมืองไทย ท่ามกลางธรรมชาติ

5 น้ำตกสวย สีฟ้าใส เขียวมรกต ในเมืองไทย

Go to Top