การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องง่ายดายเพราะส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของแต่ละคน เพียงแค่คุณทำตามเจ็ดขั้นตอนง่ายๆ คุณก็จะกลายเป็นนักท่องเที่ยวที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเต็มตัว นอกจากนี้ คุณจะรู้สึกประหลาดใจกับความหลากหลายของจุดหมายปลายทางและวัฒนธรรมบนโลกอันมีค่าของเรา
1)ศึกษาวัฒนธรรมของจุดหมายปลายทางที่คุณวางแผนที่จะไปเยี่ยมชมอย่างทะลุปรุโปร่ง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกแง่มุมของวัฒนธรรมที่อาจจะสร้างความตกใจให้กับคุณ และพิจารณาถึงพฤติกรรมของตัวคุณเองว่าอาจจะทำให้ชาวบ้านท้องถิ่นรู้สึกอารมณ์เสีย พยายามเรียนรู้คำต่างๆในภาษาท้องถิ่น คนท้องถิ่นจะชื่นชมในความพยายามของคุณ
2) ปฏิบัติตนต่อคนท้องถิ่น สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมต่างๆด้วยความเคารพ ซึ่งอาจจะหมายถึงการขออนุญาตที่จะถ่ายรูป การนำขยะไปทิ้งให้ถูกที่ก่อนที่คุณจะไป และไม่หัวเราะด้วยความสนุกสนานในพิธีกรรมทางวัฒนธรรมที่แปลกใหม่
3) คุณจะต้องเป็นผู้เข้าร่วม ไม่ใช่ผู้สังเกตการณ์ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ คุณจะต้องไม่ยืนอยู่เฉยๆแล้วถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว คุณจะต้องเข้าร่วมในการทำทุกกิจกรรมที่คุณมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการเต้นรำ การเตะฟุตบอล การโพสท่าถ่ายรูปกับคนท้องถิ่น การร้องเพลงและอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ คุณอาจจะเข้าร่วมในโครงการอาสาสมัครเพื่อที่จะซึมซับวัฒนธรรมอันแปลกใหม่อย่างเต็มที่
4) ถ้าเป็นไปได้ ให้คุณใช้รูปแบบของการขนส่งที่คนท้องถิ่นใช้ ยกตัวอย่างเช่น การเดินทางด้วยเท้า การเดินทางด้วยรถจักรยาน หรือแม้แต่การเดินทางโดยรถประจำทาง เพราะวิธีการเดินทางเหล่านี้ไม่เพียงแค่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ หรือ รถยนต์ส่วนตัว แต่ยังมอบโอกาสที่ดีที่สุดให้กับคุณในการมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านท้องถิ่น
5) พักผ่อนในโรงแรม โฮสเทล เกสต์เฮาส์ หรือโฮมสเตย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่จงระวังในเรื่องของการฟอกเขียวหรือการทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดด้วยการโฆษณาสินค้าหรือองค์กรให้มีภาพลักษณ์ว่ารับผิดชอบต่อสังคมโดยการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งๆที่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น โรงแรมหลายแห่งมักจะใช้คำว่า“สีเขียว”และ“เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”ในแผ่นพับโฆษณาเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดมากกว่าเป็นนโยบายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นคุณจะต้องถามพวกเขาว่าจ้างพนักงานที่เป็นคนท้องถิ่นและตกแต่งห้องด้วยงานศิลปะของคนท้องถิ่นหรือไม่และตรวจสอบว่าการให้บริการของพวกเขาสามารถสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่นได้จริงหรือไม่
6) เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร ให้คุณสั่งอาหารท้องถิ่นที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นเนื่องจากมันจะทำให้คุณสามารถรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่นได้อีกด้วย เจ้าบ้านจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ถ้าคุณชอบอาหารท้องถิ่นมากจนกระทั่งคุณอยากเรียนรู้ที่จะทำอาหารด้วยตัวของคุณเอง
7) เมื่อถึงเวลาซื้อของที่ระลึก คุณจะต้องมั่นใจว่าคุณซื้อสินค้าหัตถรรมในท้องถิ่นเพื่อเป็นของที่ระลึก สินค้าไม้แกะสลักที่คุณยืนดูในระหว่างที่พวกเขาทำด้วยความตั้งใจจะสร้างความทรงจำอันตราตรึงใจมากกว่าเสื้อยืดที่ผลิตอย่างเกลื่อนกลาดตามท้องตลาด แต่อย่างไรก็ตามคุณต้องหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ทำจากปะการังหรือสัตว์ที่กำลังจะใกล้สูญพันธุ์