#จัดจ้านย่านบ้านฉัน ‘Wild Nature Artisan’ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ใจกลางเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติ เล่าเรื่องราวของวัตถุดิบผ่านผลิตภัณฑ์อย่างมีเอกลักษณ์

ฟาร์มการเกษตรแบบ Urban Farming และร้านค้าเพื่อสุขภาพที่ซ่อนอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ชวนสัมผัสฟาร์มออร์แกนิกที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความทรงจำ และความใส่ใจในทุกรายละเอียด จากแรงบันดาลใจตอนเด็ก สู่การหวนกลับมาหาความสุขที่บ้านเกิด พัฒนาพื้นที่ขนาดย่อมของที่บ้านให้กลายเป็นฟาร์มผักปลอดสาร พิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก แปรรูป คัดเลือกส่วนผสมไปจนถึงการตั้งชื่อสุดเก๋มีเอกลักษณ์ สะท้อนความเป็น  Artisan หรือ ช่างฝีมือ ที่เกิดจากการผสานพืชพรรณออร์แกนิก ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตล้านนา และมุมมองอันทรงคุณค่าจากเชฟ สินค้าคุณภาพพร้อมจำหน่ายมีทั้ง แยมอาติซาน, ชาสมุนไพรออร์แกนิก, ดอกเกลือสมุนไพร, ไอศกรีมจากเนื้อผลไม้แท้ ๆ และยังมีเครื่องดื่มหลายเมนูที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมสวน เก็บผักสดตามฤดูกาลได้อีกด้วย

วันนี้พาทุกคนมาเจาะลึกแนวคิดของผู้ก่อตั้งแบรนด์ 2 พี่น้องชาวเชียงใหม่ คุณน้อย-ดารา วงศ์วรรณ และ คุณนาย-ทับทิม มลายอริศูนย์ ที่เล็งเห็นถึงคุณค่าของธรรมชาติรอบตัว นำมาต่อยอดเป็นธุรกิจใส่ใจสิ่งแวดล้อมใช้ทรัพยากรในการเพาะปลูกอย่างคุ้มค่า Green Service

Q: จุดเริ่มต้นของการทำเกษตรแบบ Urban Farming ที่เป็นแนวคิดต้นแบบของ Wild Nature Artisan ฟาร์มเกษตรอินทรีย์แห่งจังหวัดเชียงใหม่

คุณน้อยและคุณนาย: เราสองคนพี่น้องเติบโตมาในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีขุนเขาและต้นไม้สีเขียวโอบล้อมเต็มไปหมด ครอบครัวเราทำการเกษตรมาตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยาย ทำให้ซึมซับเรื่องการปลูกพืชผักสวนครัวและได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก เราถูกสอนให้รู้จักการแบ่งปัน มีความโอบอ้อมอารี สองคนพี่น้องมีสวนหลังบ้านและต้นไม้เป็นสนามเด็กเล่น เคยชินกับการเก็บผักหลังบ้านมาทำอาหาร แม้ว่าต่างคนจะแยกย้ายกันไปเรียนในต่างแดนและเริ่มทำงานในสายอาชีพอื่น แต่ตัวตนของเราก็ยังสนใจเรื่องเกษตร กสิกรรม มีความสนใจด้านสิ่งแวดล้อม และการดูแลสุขภาพ

พออายุมากขึ้นเราคิดถึงความสงบและบรรยากาศในวัยเด็ก เลยคุยกันว่าควรลดบทบาทในสังคมสมัยใหม่ แล้วหันมาใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ครอบครัว รวมทั้งผู้คนรอบข้าง ประกอบกับเรามีพื้นที่เล็ก ๆ ในเมืองเชียงใหม่ ซึ่งยังรักษาสภาพความสมบูรณ์เดิมไว้เป็นเวลานาน ไม่ได้ใช้ทำอะไร จึงได้นำมาพัฒนาต่อยอดเป็นสวนเกษตรอินทรีย์สมัยใหม่ที่อยู่ในเมือง วางแผนการเพาะปลูกพืชสมุนไพรและพืชผักสวนครัว ปรับปรุงดิน หาพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับพื้นที่มาปลูก จนในที่สุดก็บรรลุเป้าหมายกลายมาเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ในเมืองดังที่ตั้งใจไว้ Wild Nature Urban Farm เป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์ขนาดเล็ก เน้นคุณภาพ ไม่ทำลายธรรมชาติ แต่รักษาและพัฒนาให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ฟาร์มของเรายังได้รับการรับรองให้เป็น ฟาร์ม Organic Thailand จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเดือน มกราคม 2563 อีกด้วยค่ะ

Q: Wild Nature Artisan มีแนวทางการจัดการในเรื่องของ Zero Waste อย่างไร?

คุณน้อยและคุณนาย: ในฟาร์ม Wild Nature Urban Farm เราปลูกพืชแบบผสมผสาน ตามฤดูกาล ไม่เร่ง ไม่ตัดต่อพันธุกรรม ไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ลงมือทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เก็บเมล็ดพันธุ์เอง ขุดดิน ปรับปรุงดินด้วยจอบเสียม ไม่ใช้เครื่องจักรหนัก ๆ เข้ามาปฏิบัติงานเพราะจะทำให้หน้าดินเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ส่วนใบไม้ กิ่งไม้ ซากพืช เรานำมาหมักเป็นปุ๋ยอินทรีย์และสารชีวภัณฑ์ เพื่อนำกลับมาใช้ทำประโยชน์ให้พืชพรรรณในฟาร์มของเรา เช่น น้ำหมักจุลินทรีย์ ปุ๋ยจากมูลไส้เดือน ชีวภัณฑ์ไล่แมลง รวมถึงชีวภัณฑ์บำรุงพืช เช่น ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวนำมาหมักเป็นน้ำส้มหมัก, พืชที่มีกลิ่นฉุน ปลูกไว้หัวแปลงไว้ไล่แมลง หรือนำมาหมักเป็นชีวภัณฑ์ไล่แมลง, พืชที่มีรสขม รสเผ็ดร้อน จะนำมาหมักใช้เป็นชีวภัณฑ์ไล่แมลง, กิ่งไม้ ใบไม้ ซากพืช เอามาหมักให้เกิดการย่อยสลายแล้วนำมาเป็นวัสดุปลูกพืชต่อไป

Wild Nature Urban Farm เน้นให้ธรรมชาติจัดการธรรมชาติเอง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน เพื่อความยั่งยืน จึงทำให้ไม่มีขยะเสียเหลือทิ้งออกจากฟาร์ม เรานำกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ เป็นการลดภาระการทิ้ง ทำลาย ลดมลภาวะ และลดโลกร้อน เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Q: ผลิตภัณฑ์จาก Wild Nature Artisan มีจุดเด่นและความแตกต่างอย่างไรบ้าง?

คุณน้อยและคุณนาย: เราชอบคิด ชอบทำ และทำเองแบบ Handmade เป็นส่วนใหญ่ บางคนอาจจะคิดว่าการทำเองด้วยมือมันช้า แต่เรามีความประณีตมากกว่าการทำงานด้วยเครื่องจักร เราใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น สายตามอง จมูกรับกลิ่น มือสัมผัส จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็น  Artisan หรือ ช่างฝีมือ ผลิตภัณฑ์ของ Wild Nature Artisan ได้สร้างสรรค์จากการผสานพืชพรรณออร์แกนิก ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตล้านนา และมุมมองอันทรงคุณค่าจากเชฟ ที่ช่วยเปิดพรมแดนความคิด การเข้าถึงรสชาติใหม่ ๆ ทำให้การปรุงอาหารมีคุณค่าและงดงามมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการรับรองมาตรฐานจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย. และ Organic Thailand สามารถส่งออกต่างประเทศได้อย่างสะดวก อีกทั้งในบรรจุภัณฑ์ยังสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ลดการเกิด Waste ด้วยค่ะ

Q: เป้าหมายและอนาคตของ Wild Nature Artisan หลังจากนี้?

คุณน้อยและคุณนาย: เราเชื่อว่า “ความรู้” จะยิ่งงอกงามเมื่อได้พัฒนาและแบ่งปัน เป้าหมายต่อไป คือเพิ่มการแชร์ประสบการณ์เรื่องราวของเชียงใหม่ ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพ ทั้งในการเพาะปลูกและการแปรรูป ต่อไปอาจจะมี Love Chiangmai  #2, #3  หรือ It takes Two #2, #3 ออกมาวางขาย พร้อมกับเลือกใช้กลยุทธ์ Collaboration โดย Wild Nature Artisan เปิดรับความร่วมมือและมุมมองที่มีค่าของคนรุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ไปสู่การสร้างรสชาติอาหารใหม่ ๆ ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบัน เรามีผลิตภัณฑ์หลัก แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

(1) Wild Nature Artisan Jam แยมผลไม้ ที่เน้นผลใม้ในท้องถิ่น เพิ่มความซับซ้อนเข้าไปด้วยสมุนไพรออร์แกนิก รสชาติหวานน้อย ไม่มีส่วนผสมของเจลาติน เป็น Vegan Jam 100 % ตอนนี้มี 7 รสชาติ ทั้งCitrus Melody แยมส้ม 4 สายพันธุ์ผสมโหระพาฝรั่ง, Memory of Kindness แยมกุหลาบลิ้นจี่, Passionate Sunrise แยมเสาวรสน้ำผึ้งมิ้นต์, Bold Companions แยมช็อกโกแลตลูกหม่อนออร์แกนิก, It Takes Two #1 แยมทูว์โทน เสาวรสและสตรอเบอร์รี่, Banoffee Dreams แยมกล้วยคาราเมล, Young at Heart แยมสตรอเบอร์รี่วานิลลา

(2) Wild Nature Organic Herb Salt ดอกเกลือสมุนไพร หลากหลายสูตร Red for Red เหมาะสำหรับเนื้อแดง เพราะมีตัว Shiraz เป็นส่วนผสม สำหรับการทำสเต็ก จบในตัวเดียว, Always a Good Idea ได้ความรู้สึกของสมุนไพรฝรั่ง แต่มีกลิ่นไอของความเป็นไทยอยู่ด้วย อเนกประสงค์สมชื่อ Always a Good Idea, Never Ending Summer มีส่วนผสมสมุนไพรตะวันตกและมิ้นท์ ให้ความสดชื่น เหมาะกับเมนูปลา อาหารทะเล หรือเนื้อแกะ, Thai Thai Grills เหมาะสำหรับทำเมนู ผัด ทอด หมูย่าง ไก่ย่าง หรือสเต็กรสไทย ๆ , Love Chiangmai #1 มีกลิ่นอายของอาหารเหนือ คล้ายส่วนผสมในไส้อั่ว เข้ากันกับเนื้อได้หลากหลาย ทำได้ทั้งเมนูข้าวผัด ห่อหมก ไก่อบ

(3) Wild Nature Herbal Organic Infusion เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน ไม่มีส่วนผสมของชา ประกอบด้วยสมุนไพรออร์แกนิก 100 % สามารถดื่มได้ทั้งวันเป็น All Day Drinking ได้เลยค่ะ เรามีทั้งหมด 5 เมนู

Som Shun เครื่องดื่มรสส้มฉุน ช่วยคลายความตึงเครียดในช่วงกลางวัน ระหว่างการทำงาน, Magic Mint รสมิ้นท์ สีฟ้า หอมเย็นสดชื่น เป็นเครื่องดื่มหลังอาหาร ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น, Dreamchaser เครื่องดื่มสีชมพูเรื่อ ๆ จากกลีบกุหลาบ ดอกดาหลา ดอกมะลิ เหมาะสำหรับดื่มในเวลาบ่ายหรือเย็น ช่วยให้นอนหลับสบาย ฝันดี, Tom Klong ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เหมาะเป็นเครื่องดื่มกระตุ้นพลังในยามเช้า, Tom Yum รสเผ็ดร้อนนิด ๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดื่มช่วงเช้ากระตุ้นให้ร่างกายพร้อมรับวันใหม่ได้อย่างสดใส

นอกจากนี้ Wild Nature Artisan ยังมีไอศกรีมโฮมเมด และเมนูเครื่องดื่มจากผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรออร์แกนิก ทั้งร้อนและเย็นไว้คอยบริการด้วยค่ะ

Q:  ในมุมมองผู้ประกอบการ คิดว่าจะสามารถส่งเสริมความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวได้อย่างไร โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Tourist Attraction?

คุณน้อยและคุณนาย: ในฐานะผู้ประกอบการ เรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ โดยผสมผสานพืชพรรณ ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตล้านนา และผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเปิดพรมแดนในด้านความคิด การเข้าถึงรสชาติใหม่ ๆ ที่ทำให้ชีวิตเรียบง่ายงดงามมากขึ้น และส่งต่อเรื่องราวของเชียงใหม่ไปยังแดนไกลได้อย่างสะดวก และเชื่อว่าจุดเด่นของความเป็น Wild Nature Artisan จะสามารถเข้ามาซัพพอร์ตในการท่องเที่ยวได้ค่ะ

และเร็ว ๆ นี้ เรากำลังจะมี Workshop ซึ่งเตรียมงานใกล้เสร็จแล้วค่ะ หน้าหนาวนี้จะมีคอร์ส Tea Cupping , Easy Cooking เป็นคอร์สเดินเก็บพืชผักในฟาร์มมาทำอาหาร โดยเน้นวิถีชีวิตพื้นบ้าน หรือคอร์สอาหารสำหรับคนในเมือง นำความเป็นเชียงใหม่กลับบ้านไปสร้างสรรค์เมนูง่าย ๆ ได้ที่บ้าน สถานที่รองรับ มีที่นั่งบริเวณภายนอก 40 ที่ มีพื้นที่สำหรับทำ Workshop และทานอาหาร และที่นั่งภายในร้านอีก 10 ที่  เน้นความเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบาย ๆ ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

นอกจากผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก เรายังมีผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า “ชื่นใจ” เป็นการสร้างสรรค์เพื่อให้ผู้มาเยือนรู้สึก “ชื่นใจ” ในทุกครั้งที่ได้รับ ได้แก่ เครื่องดื่มอินฟิวชั่น ร้อน-เย็น ปั่น มีเมนูไอศกรีมโฮมเมดที่วัตถุดิบมาจากเกษตรกรในท้องถิ่น บางชนิดก็กำลังจะสูญพันธุ์ เน้นเนื้อผลไม้เต็มคำ จินตนาการจากประสบการณ์ด้านศิลปะ วัฒนธรรม จากหลาย ๆ แห่งผสมผสานกัน 100 กว่ารสชาติ รับประทานแล้วชื่นใจ

ไอศกรีมไพลิน เนื้อเนียนนุ่มสีฟ้าอ่อน หอมมะพร้าว  ทุกคำสัมผัสความสดชื่นแบบธรรมชาติของมะพร้าว เพิ่มความหนึบด้วยเม็ดไพลินสีฟ้าเข้มของมะพร้าวและดอกอัญชัน

อัฟโฟกาโต้ไพลิน สำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟขอแนะนำ เมนู Affogato  ในรูปแบบของการดื่มกาแฟน้ำมะพร้าว เป็นการดื่มกาแฟและรับประทานไอศกรีมไพลินไปพร้อมๆกัน  สัมผัสรสขมและหอมกาแฟ พร้อมๆ กับสัมผัสความเนียน หนึบ และหอมมะพร้าว “ ชื่นใจ ” เพลินๆ หมดถ้วยไม่รู้ตัว

ไอศกรีมลูกจันทร์ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของลูกจันทร์ ความเนียนเหนียวหนึบแบบทุเรียน อารมณ์รับประทานขนมหวานน้ำกะทิ

เมนูเครื่องดื่มอินฟิวชั่นเย็น แนะนำเครื่องดื่มต้มโคล้ง และต้มยำ ที่นำประสพการ์ณจากอาหารไทยมาเป็นเครื่องดื่มให้ความ” ชื่นใจ “ แขกผู้มาเยือน เครื่องดื่มต้มโคล้งเย็น เครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกสะดุ้งเล็กๆในจิบแรก ชวนให้ติดตามในจิบต่อๆ ไป ด้วยรสเปรี้ยวกำลังดี เผ็ดร้อนลึกๆ เป็นต้มโคล้งในรูปแบบของเครื่องดื่มดับกระหาย

และ “ ชื่นใจ ” เครื่องดื่มต้มยำ แอบจัดจ้านแบบต้มยำ มีความเผ็ดนิดๆ เปรี้ยวแบบไม่เปรี้ยวจี๊ด หอมกลิ่นสมุนไพรต้มยำ เป็นเมนูที่ดึงรสของอาหารที่คุ้นเคยเป็นความแซ่บและซ่อนความมีอะไร อะไร ให้ติดตามและ “ ชื่นใจ ” เครื่องดื่มชากุหลาบเย็น หอมสดชื่นนุ่มนวลจากกุหลาบสดออร์แกนิค เบลนกับชาอัสสัมออร์แกนิคจากป่าธรรมชาติ ให้ความสดชื่น คลายร้อน “ ชื่นใจ ”

#เที่ยวใส่ใจ ไปกับ #7Greens เรียกว่าได้เรียนรู้แนวคิดการเกษตรรูปแบบ Urban Farming ผ่านบทสัมภาษณ์นี้แบบเต็มอิ่ม เมื่อคิดดี คิดกรีนและเริ่มต้นลงมือทำ เป็นคนเมืองก็สามารถทำเกษตรอินทรีย์ได้ ใครมีโอกาสไป #เชียงใหม่ อย่าลืมแวะไปที่ Wild Nature Artisan

Wild Nature Artisan 119/50 ถนนมหิดล ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง เชียงใหม่  

(ใกล้สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ )

📍https://goo.gl/maps/oENaTgRLo73JCZcQ8  

⏰เปิดทุกวันจันทร์ – เสาร์ (9.00 น. – 17.00 น.)

☎️053-016410 

🌐Facebook: https://www.facebook.com/wildnatureartisan  

🌐เว็บไซต์: https://wildnatureartisan.com