ในบรรดาเกาะแก่งทั้งหมดทางฟากตะวันออก เกาะหมากดูเหมือนเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ผู้คนหลงลืมไปอย่างไม่น่าเชื่อ เราต่างหันหน้าสู่เกาะช้าง เกาะกูด และดันลืมไปว่าเกาะหมากซึ่งตั้งอยู่ละแวกเดียวกันก็น่าเที่ยวไม่แพ้กัน ธรรมชาติอันพิสุทธิ์ ความเงียบสงบ ปลีกวิเวก ยังคงเหลือไว้ท่ามกลางความเจริญที่เข้าถึง
เกาะหมาก เป็นเกาะในจังหวัดตราด ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร มีพื้นที่ 9,000 ไร่ หรือ 14.4 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 500 คน จากท่าเรือแหลมงอบสู่เกาะหมาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ บรรยายกาศบนเกาะหมาก แลดูผิวเผินคล้ายเกาะทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือธรรมนูญ 8 ข้อที่ชาวเกาะร่างกันไว้เพื่อดูแลรักษา โดยมีเป้าหมายเพื่อการท่องเที่ยวที่มีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อม
นายนิพนธ์ สุทธิธนกูล ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกาะหมาก บอกกับเราว่า การท่องเที่ยวบนเกาะหมากมีการเติบโตและอยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด จึงทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุน ที่เข้ามาสร้างที่พักและนำเสนอกิจกรรมทางการท่องเที่ยว เช่น เจ็ตสกี การเปิดสถานบันเทิง ชาวบ้านและชุมชนบนเกาะหมาก ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เจ้าของทรัพยากร ต้องมาทบทวนและทำความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดทำ ‘ธรรมนูญเกาะหมาก’ ข้อตกลงร่วมกันทั้งฝ่ายชาวบ้าน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว ที่จะร่วมกันปฏิบัติ
ธรรมมนูญ 8 ข้อ ประกอบไปด้วย
1.ไม่สนับสนุนให้เรือเฟอรี่นำยานพาหนะของนักท่องเที่ยวข้ามมายังเกาะหมาก
2.รถจักรยานยนต์ให้เช่าต้องไม่เกินร้อยละ 70 ของจำนวนห้องพักบนเกาะหมาก
3.ไม่สนับสนุนการใช้วัสดุจากโฟม หรือวัสดุที่ก่อให้เกิดมลพิษ เพื่อใส่อาหาร
4.ห้ามทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูล ของเหลือรับประทานลงในที่สาธารณะ และแหล่งน้ำโดยเด็ดขาด
5.ไม่สนับสนุนให้ใช้สารเคมีที่มีสารตกค้างสูง
6.ห้ามส่งเสียงดังหรือกระทำการรบกวน หรือเป็นการเดือดร้อน ในเวลา 22.00 น. – 07.00 น.
7.ไม่สนับสนุนกีฬาทางบกและทางทะเลที่ใช้เครื่องยนต์ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชุมชน
8.ห้ามนำ ห้ามเสพ ห้ามจำหน่ายสารเสพติดผิดกฎหมายทุกชนิดบนเกาะ
และด้วยกฎเหล่านี้แหละ การอยู่อาศัยบนเกาะจึงอิงกับพลาสติกน้อยมาก ป้ายทุกป้ายบนเกาะ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกสถานที่ หรือป้ายบอกทาง ล้วนทำมาจากไม้ วาดด้วยสีน้ำ แลดูน่ารักน่าชัง พาชนะก็ล้วนนำมาใช้ได้หลายครั้ง หลอดพลาสติกแปลงร่างเป็นหลอดจากธรรมชาติ การเดินทางบนเกาะก็มีรถรางไฟฟ้า หรือจักรยานให้บริการ แต่ใช่ว่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ยังมีรถเครื่องสี่ล้อให้บริการอยู่
สถานที่เที่ยวบนเกาะหมากที่น่าสนใจมีหลายแห่ง แห่งแรกที่บริเวณ อ่าวพระ อ้าวคุ้งน้ำสวย ที่มอบหาดทรายเนียนละเอียด ทอดยาวเป็นกิโลเมตร เหมาะแก่การเล่นน้ำ พายคายัค หรือแม้แต่ทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ บริเวณนี้มีรีสอร์ทหรูเปิดให้บริการอยู่หลายเจ้า สุดเวิ้งอ่าว มีสะพานทอดตัวยาวลงสู่ท้องทะเล สถานที่ตั้งของบาร์เล็กกลางน้ำนาม Blue Pearl ที่หลายคนชื่นชอบ นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่ในช่วงดวงอาทิตย์ลาลับฟ้า สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ ทั้งซอล์ฟดริ๊งค์ ค็อกเทล และม็อกเทล แล้วเอนหลังบนเก้าอี้ไม้ ฟังเสียงคลื่น มองดูพระอาทิตย์ค่อยๆ ล้นลงจากฟากฟ้า บรรยากาศความชิลยกคะแนนให้เต็ม 10
ห่างจากอ่าวพระไปไม่ไกล ‘สวนผักออร์แกนิค’ รอคนให้เป็นเยี่ยมชม สวนเกษตรอินทรีย์กลางเกาะในขอบรั้วของเกาะหมาก รีสอร์ท ที่ใช้ความพยายามนานกว่า 3 ปี ในการปรับปรุงดินให้เหมาะการปลูกผักปลอดสารพิษ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นการปลูกผัก และเลี้ยงปลา พืชที่ปลูกส่วนใหญ่มักเป็นผักพื้นบ้าน และผลไม้ต่างๆ บ่อน้ำธรรมชาติก็ปรับปรุงให้สะอาด แล้วเลี้ยงปลาดุก ปลาสวาย ปลานิล รวมทั้งเลี้ยงเป็ดและไก่ไข่โดยวิธีเลี้ยงปล่อย ล้อมคอกขนาดใหญ่ แล้วสร้างห้องนอนและห้องฟักไข่อยู่ภายใน ซึ่งผลผลิตทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในรีสอร์ท ก่อนแบ่งปันชาวบ้านบนเกาะไว้บริโภค นอกจากปลูกไว้กินเองแล้ว ที่นี่ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์เผยแพร่ความรู้ให้แก่ชุมชนในการทำเกษตรอินทรีย์ด้วย
หมู่บ้านชาวประมงบนเกาะหมาก นั่นค่อนข้างแตกต่างจากหมู่บ้านชาวประมงที่อื่น เพราะพวกเขาทำประมงพื้นบ้านแบบพออยู่พอกิน มีการปักไม้กลางทะเลอนุบาลปลาเล็ก หาดทรายเนียนละเอียด สะอาดสะอ้าน บางส่วนของหมู่บ้านยังแปรเปลี่ยนเป็นโฮมสเตย์ต้อนรับนักท่องเที่ยว บรรยายน่ารัก และฮิปกว่าที่คาดไว้มากโข
สถานที่อีกแห่งที่น่าสนใจ คือ พิพิธภัณฑ์เกาะหมาก พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวเกาะหมาก รวมถึงจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ งานศิลปหัตถกรรม ตัวอาคารแบ่งมี 2 ชั้น มีขนาดกระทัดรัด ไม่โอ่อ่าเหมือนพิพิธภัณฑ์ในเมือง เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่เวลา 10.30-17.00 น. เยี่ยมชมเสร็จแล้ว อย่าลืมบริจาคค่าเข้าชมตามกำลังศรัทธา เพื่อสนับสนุนให้พิพิธภัณฑ์สามารถต่อลมหายใจไปได้
ตลอดระยะเวลาที่ตะเวนเที่ยวเกาะหมาก ผู้เขียนรู้สึกว่าเกาะนี้น่ารักมาก น้ำทะเลใสสะอาด หาดทรายนวลเนียนน่าเล่น ใต้ทะเลมีปะการังให้ดำดู ที่สำคัญผู้คนบนเกาะมีมิตรไมตรีจิต ต้อนรับขับสูงดีมาก ใครที่อยากปลีกวิเวก หลบหลีกผู้คน ลองแวะมาพักกายพักใจยังเกาะนี้ รับรองว่าคุณจะต้องชอบเหมือนที่ชอบ