เมืองเก่าลำปาง

ใครมาเยือนที่นี่ก็จะได้สัมผัสกับความงดงามของศิลปวัฒนธรรมที่มีมาแต่ครั้งอดีตของนครลำปางหรือเขลางค์นคร ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่รุ่งเรืองในสมัยหริภุญไชยเมื่อกว่า 1,300 ปี ก่อนเริ่มตั้งแต่ที่ประตูเมืองโบราณอัตลักษณ์ล้านนา การเยี่ยมชมวัดปงสนุกเหนือกับไฮไลต์ที่วิหารพระเจ้าพันองค์ซึ่งสร้างด้วยไม้ วิจิตรด้วยลวดลายศิลปกรรมไทยโบราณ เรียงรายด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวน 1,080 องค์ โดยรอบ ประดิษฐานพระพุทธรูปสี่องค์หันหน้าออกสู่ทิศทั้งสี่ การันตีด้วยรางวัลวัดดีเด่นด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก้ในปี พ.ศ.2551 ต่อด้วยไปชมความงามที่แตกต่างกันของวัดศรีชุม วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างจากไม้ด้วยศิลปะแบบพม่าและมอญที่ได้รับอนุรักษ์ไว้อย่างดี ภายในมีพระบรมธาตุสีทองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อันเชิญจากพม่าให้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลนอก จากนั้นยังมี หออะม็อก (หอปืนใหญ่) วัดกลางเวียง (วัดบุญวาทย์วิหาร) วัดน้ำล้อม วัดป่าดัวะ วัดหมื่นกาด รวมถึงเรือนเจ้าแม่ยอดคำ และบ้านเสานักของคหบดีชาวพม่าที่แสดงชัดถึงฝีมือด้านศิลปวัฒนธรรม

การเที่ยวเมืองลำปางนั้นพลาดไม่ได้เลยกับการนั่งรถม้า สัญลักษณ์ของเมืองที่ปัจจุบันได้เริ่มประยุกต์นำแผงโซล่าเซลล์มาติดเพื่อให้พลังงานไฟส่องทางเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ตอบโจทย์การช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมโดยตัวชุมชนเอง นอกจากนั้นชาวลำปางก็ยังมีส่วนร่วมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการเปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้กับความเป็นมาและการผลิตเซรามิกหรือชามตราไก่แบบดั้งเดิมของลำปาง นักท่องเที่ยวก็สามารถช่วยสนับสนุนสินค้าชุมชนที่เหมาะกับการนำไปเป็นของที่ระลึกหรือของฝากได้ด้วย

ก่อนจากลำปางอย่าลืมแวะไปถนนคนเดินกาดกองต้า ย่านนี้ในอดีตครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 มีชาวจีนเข้ามาทำการค้าจำนวนมากจึงทำให้ชาวบ้านเรียกขานอีกชื่อว่าตลาดจีน ตลอดทางเดินมีบ้านเรือนเก่าแก่อายุนับร้อยปี สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างจีน ยุโรป และพม่าที่ลงตัว มีบรรยากาศดีริมแม่น้ำวัง มีเกสต์เฮ้าส์ต้อนรับผู้ที่ต้องการพักใกล้ชิดวิถีชุมชน เหมาะกับการเดินเล่นอุดหนุนผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน หรือแวะเขียนโปสต์การ์ดเล่าความประทับใจส่งกลับไปหาตัวเอง หรือชักชวนเพื่อน ๆ ให้เดินทางเที่ยวลำปางอย่างมีความรับผิดชอบ เพราะเมื่อเราทุกคนมีความรับผิดชอบแหล่งท่องเที่ยวก็อยู่ได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง