ชุมชนแหลมสัก
ชุมชนที่ผสานสามวัฒนธรรมของสามชนชาติไว้ด้วยกันอย่างผสมกลมกลืน ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นชุมชน “ทะเลสามด้าน วัฒนธรรมสามสาย” เพราะที่ตั้งนั้นมีลักษณะเป็นแหลมยื่นไปในทะเลอันดามันทำให้มีทะเลถึงสามฝั่ง อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมของคนจีน คนไทย และคนมุสลิมที่ผสมไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ผู้ที่มาเยือนที่จึงได้สัมผัสสิ่งดี ๆ ของทั้งสามวัฒนธรรมภายในการเดินทางเพียงครั้งเดียว
นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมภาคใต้ จากการนั่งเรือหัวโทง อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ไปชมความสวยงามของทะเล และสวมบทบาทเป็นชาวประมงชายฝั่ง ลองตกหมึก วางอวนปู วางอวนกุ้ง ไปดูการเพาะพันธุ์สาหร่ายพวงองุ่นบนกระชัง ซึ่งสาหร่ายนี้จะเติบโตได้ในพื้นที่ที่น้ำทะเลสะอาดมาก ๆ ดังนั้นแล้วนี่จึงเป็นการการันตีความสะอาดและความสมบูรณ์ของทะเลที่นี่ได้เป็นอย่างดี แล้วอย่าลืมไปแวะชมภาพลายเขียนสีอายุกว่า 3,000 ปี ที่ถ้ำชาวเล และไปชมเขาเหล็กโคน ภูเขารูปร่างคล้ายตะปูที่เป็นแลนด์มาร์กของที่นี่ และยังมีภูเขาลักษณะคล้ายหัวใจซึ่งเกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติที่แหลมไฟไหม้ ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยังมีส่วนที่จะช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยการช่วยกันปลูกกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ ซึ่งเป็นกล้วยไม้ประจำถิ่นคืนสู่ธรรมชาติ
นอกเหนือจากทะเลแล้ว นักท่องเที่ยวก็ยังจะได้สัมผัสเอกลักษณ์ของชุมชนสามวัฒนธรรมด้วยการเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตโดยชุมชนซึ่งล้วนเกิดจากการผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าปาเต๊ะ เครื่องแต่งกายบาบ๋า-ย่าหยา มาเรียนรู้วิถีชุมชน เช่น การทำกะปิจากกุ้งเคย มาชิมอาหารพื้นเมืองต่าง ๆ เช่น ข้าวคลุกกะปิ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของชุมชนแห่งนี้ และจะช่วยกันสนับสนุนให้ชาวชุมชนรักษาสิ่งดี ๆ เหล่านี้ที่ผสมกลมกลืนกันมาเป็นเวลานานให้คงอยู่ต่อไป
กิจกรรมไฮไลต์
- นั่งเรือหัวโทงอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้
- เรียนรู้และทดลองเป็นชาวประมงด้วยการลองตกหมึก วางอวนปู วางอวนกุ้ง ฯลฯ
- ชมแลนด์มาร์ก เขาเหล็กโคน ภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายตะปู
- ปลูกกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
- สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม และช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ เวลา 09.00-16.00 น.
- การพายเรือคายัคมี 2 ช่วงคือช่วงเช้าและช่วงบ่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับน้ำขึ้น-น้ำลงในแต่ละวัน